อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 53 ของประเทศไทย ด้วยพื้นที่ที่ติดต่อกับประเทศลาว และประเทศกัมพูชา จึงมีการขนานนามที่แห่งนี้ว่า สามเหลี่ยมมรกต นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ป่าส่วนหนึ่งอยู่ในแนวเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งมีป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรังที่หนาแน่นสมบูรณ์ เป็นอุทยานฯ ที่มีสภาพธรรมชาติที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย เพราะมีถนนลาดยางเข้าถึงอุทยานฯ และน้ำตกห้วยหลวง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเด่นที่สุด จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนน้ำตกนี้อย่างไม่ขาดสาย นอกจากน้ำตกแล้ว ที่นี่ยังมีอากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาว จึงมีนักนิยมไพรมากางเต็นท์พักแรมบนภูสูงอีกด้วย
จุดเด่นที่สุดของการเดินทางมาเที่ยวที่ภูจองนายอย คือ การได้มาชมความงามของน้ำตกห้วยหลวง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกถ้ำบักเตว เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ เป็นหน้าผาหินที่มีน้ำกระโจนตกจากที่สูงลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง มีความสูงประมาณ 40 เมตร ใต้หน้าผานั้นมีซอกหินที่คุณสามารถเดินลงไปชมน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด โดยจะมองเห็นสายน้ำไหลผ่านด้านหน้า เหมือนน้ำฝนตกจากชายคา บริเวณแอ่งน้ำด้านล่างน้ำตกสามารถลงเล่นน้ำได้ด้วย กระแสน้ำที่ไหลตกจากที่สูงทำให้เกิดเป็นหาดทรายขนาดย่อม ซึ่งแวดล้อมด้วยป่าไม้ที่ร่มรื่น นับเป็นหาดทรายกลางป่าที่สวยงามไม่เหมือนที่ใดๆ น้ำตกห้วยหลวงจะสวยงามมากที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว หากเป็นช่วงหน้าฝนจะมีปริมาณน้ำมากจนเกิดเสียงน้ำตกดังกึกก้องไปทั่วป่าเลยทีเดียว
จากแอ่งน้ำด้านล่างน้ำตกห้วยหลวง คุณสามารถเดินเลาะไปตามลำธารเพื่อไปชมน้ำตกประโอนละออ ระยะทางเพียง 100 เมตรเท่านั้น น้ำตกประโอนละออ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกจุ๋มจิ๋ม เป็นน้ำตกที่อยู่ต่อจากน้ำตกห้วยหลวง เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่สวยงาม สายน้ำไหลตกจากหน้าผาไม่สูงนัก แต่ด้านหน้ากว้าง มีแอ่งน้ำที่เหมาะสำหรับลงเล่นและนวดตัวด้วยสายน้ำ นอกจากนี้ยังมีสภาพป่าที่ร่มเย็นอีกด้วย
สำหรับจุดพักผ่อนเล่นน้ำที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่ แก่งกะเลา ซึ่งมีลักษณะเป็นลำธารหินไหลแยกเป็น 2 สาย ทำให้เกิดเป็นเกาะเล็กๆ กลางลำธาร ซึ่งทางอุทยานฯ ได้จัดสถานที่เป็นจุดนั่งพักผ่อน เหมาะกับการปิกนิกริมน้ำ จากแก่งกะเลามีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ชมพรรณไม้ไปจนถึงแก่งสนสามพันปี บริเวณแก่งสนสามพันปีนี้ เป็นจุดที่สามารถล่องแพไม้ไผ่ชมแมกไม้ริมคลอง ซึ่งคุณสามารถติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางและแพไม้ไผ่ได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบการกางเต็นท์พักแรมท้าลมหนาว ต้องไม่พลาดที่จะไปเยือนภูหินด่าง ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอบุณฑริก ภูหินด่างเป็นภูเขาหินทรายที่ประกอบไปด้วยลานหินที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาที่สวยงามแปลกตา ทั้งลานหินงอก แอ่งหินเว้า และร่องหินแยก บนภูเป็นจุดชมวิวบริเวณหน้าผา และยังเป็นเส้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและลาว ซึ่งมีหลักบอกเขตตั้งอยู่ จะเรียกที่นี่ว่า เป็นจุดชมวิวสองแผ่นดินก็คงไม่ผิดนัก โดยสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้ารวมทั้งทะเลหมอกในฤดูหนาว ชมทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตาของพื้นที่ราบลุ่ม แม่น้ำโขง และสภาพป่าในเขตประเทศลาวและกัมพูชาที่อยู่เบื้องล่าง ที่ผนังหินใต้เพิงผาปรากฏแถบสีแดงและสีชมพูอยู่หลายแห่งซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ภูหินด่าง บริเวณด้านบนยังสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ แต่การเดินทางต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อยกสูง หรือใช้บริการรถอีแต๊กของชาวบ้าน และคุณต้องเตรียมน้ำดื่ม อาหาร และอุปกรณ์ในการค้างแรมมาด้วย
การเดินทาง : จากจังหวัดอุบลราชธานีไปยังอำเภอนาจะหลวย แนะนำให้ใช้เส้นทางสายอุบลราชธานี-อำเภอวารินชำราบ ผ่านอำเภอเดชอุดม ตามทางหลวงหมายเลข 2171 จนถึงอำเภอนายืน จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2248 ทางไปอำเภอนาจะหลวย ก่อนถึงอำเภอนาจะหลวยประมาณ 10 กิโลเมตร จะถึงบ้านแก้งเรือง ซึ่งมีทางแยกเข้าไปอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ระยะทางรวม 140 กิโลเมตร
ช่วงเวลาท่องเที่ยว : ฤดูฝน-ฤดูหนาว
สิ่งอำนวยความสะดวก : ที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอยมีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวอยู่ 2 จุด คือ บริเวณที่ทำการอุทยานฯ และบริเวณน้ำตกห้วยหลวง นอกจากนี้ทั้ง 2 จุด ยังมีลานกางเต็นท์ให้บริการด้วย คุณสามารถนำเต็นท์มาเอง หรือจะใช้บริการของอุทยานก็ได้ โดยการจองบ้านพักสามารถสั่งจองผ่านระบบออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต ที่ www.dnp.go.th นอกจากนี้ที่อุทยานฯ ยังมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านค้า สวัสดิการ ค่ายเยาวชน และโทรศัพท์ สาธารณะด้วย
ติดต่อ-สอบถาม : โทรศัพท์ 045-411-515, 045-411-516
|